สภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตรบูรณาการร่วมกับพาณิชย์-เกษตร-ผู้ประกอบการรับซื้อพืชผลการเกษตร รวมกลุ่มเกษตรกรสนับสนุนปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐเป็นไม้ผลทางเลือกใหม่ เชื่อมั่นอนาคตรุ่ง  เหตุประเทศจีนเปิดออเดอร์ขอซื้อเป็นจำนวนมากแต่ปัญหาคือ หาผลผลิตไม่ได้เป็นกอบเป็นกำจึงต้องเร่งส่งเสริมปลูกขนุนเพื่อรองรับตลาดการส่งออก เกษตรกรต้นแบบเผยปลูกขนุน  8 ไร่ 1 ปี ขายได้เกือบ 4 แสนบาท แถมต้นทุนต่ำดูแลง่าย

ขนุนพืชเศรษฐกิจ

นายศุภเดช  แสนภูมินิเทศ  หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่พบกลุ่มเกษตรกรที่สมัครเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกขนุนเพื่อการส่งออก ที่ขณะนี้มีสมาชิกแล้ว 42 ราย ซึ่งปัจจุบันมีทั้งผู้ที่มีอาชีพทำนาและมีอาชีพเป็นชาวสวนปลูกส้มโอ แต่สนใจที่จะขอปลูกพืชหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกทางรอดดีกว่าที่จะเสี่ยงปลูกพืชเชิงเดี่ยวที่ขอเลือกปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐเพื่อการส่งออก

ขนุนพืชเศรษฐกิจ

โดยสมาชิกกลุ่มผู้ประสงค์ที่จะปลูกขนุน 42 ราย  พื้นที่กว่า 200 ไร่  ได้เข้าร่วมรับฟังและลงพื้นที่ดูสวนขนุนพันธุ์ทองประเสริฐของ นายบุญเลิศ  อินทะกะ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145/1  หมู่ 1 บ้านบึงโพธิ์   อ.โพธิ์ประทับช้าง  ที่อดีตเป็นเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอแต่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกส้มโอเป็นพื้นที่ปลูกขนุน 8 ไร่ กล่าวว่า เหตุที่ตัดสินใจหันมาปลูกขนุนบนเนื้อที่ 8 ไร่ ระยะห่าง 7×7 เมตร 1 ไร่  ปลูกได้ 30 ต้น อายุต้นขนุนขณะนี้ 3 ปี  ผลผลิตที่ได้คือ 1 ต้น  จะได้ผลผลิตประมาณ 150 กก./ต้น เหตุที่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนจากการปลูกส้มโอ แล้วหันมาเลือกปลูกขนุนเพราะการดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยาก ง่ายกว่าส้มโอ อีกทั้งการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดแมลงหรือการใส่ปุ๋ยต่างๆก็น้อยกว่าการปลูกส้มโอ  ขนุนใช้เวลาเพียง  2 ปี ก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี 

ขนุนพืชเศรษฐกิจ

ฤดูกาลที่ผ่านมา นายบุญเลิศ บอกว่า ปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ 8 ไร่ รายรับจากการ ขายผลผลิตได้  4  แสนบาท  มีรายจ่ายค่าสูบน้ำ-ค่าปุ๋ย-ค่ายาและอื่นๆ รวมแล้วประมาณ 4 หมื่นบาท  หักลบกลบหนี้แล้วมีรายรับดีกว่าทำนาปลูกข้าวหรือปลูกส้มโอ  ในส่วนของเรื่อง การตลาดก็มีผู้มารับซื้อถึงที่ได้ราคาดังนี้  เกรด A คัดพิเศษ ขนาด 13กก./ผล ขายได้  30-50 บาท/กก.   ,   เกรด A ขนาด 10 กก./ผล ขายได้  15 บาท/กก.   ,   เกรด B ขนาด 8-10 กก./ผล ขายได้  12บาท / กก.   , เกรด C   ขนาด 7-8 กก./ผล  ขายได้  10 บาท / กก.   ,  เกรด D คือผลเล็กกว่า 5 กก./ผล  ส่งขายต่างประเทศไม่ได้  ก็สามารถขายตลาดภายในประเทศได้ กก.ละ 10 บาท   เรียกได้ว่าขายได้ทุกขนาดทุกไซส์ ( ราคามีปรับขึ้น-ลง ตามสภาวะการตลาดและฤดูกาล )  แต่ถ้าเป็นตลาดส่งออกก็ขายไปยังประเทศจีน

ขนุนพืชเศรษฐกิจ

ในส่วนของ  นายบุญเกิด  มีทวี  ผู้จัดการบริษัท เอ็ม.ที.ฟรุท โปรดักส์   หมู่ 3 ต.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นล้งรับซื้อส้มโอรายใหญ่ของ จ.พิจิตร กล่าวว่า ตลาดส้มโอเพื่อการส่งออกรวมถึงขายในประเทศก็ยังไปได้สวย  แต่ขณะนี้มีคำสั่งซื้อมาจากประเทศจีน ว่า ปัจจุบันนี้ชาวจีนนิยมบริโภคขนุนสายพันธุ์ทองประเสริฐ เนื่องจากติดใจในรสชาติ รวมถึงมีค่านิยมว่า ขนุนเป็นผลไม้มงคล เนื่องจากมีสีเหลืองอร่ามเปรียบประดุจทองคำ จึงทำให้ขนุนเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกชนิดใหม่ แต่ปริมาณสินค้ามีไม่เพียงพอกับความต้องการ  ดังนั้นจึงออกมาเชิญชวนเกษตรกรชาวพิจิตรว่า  หากต้องการปลูกไม้ผลหรือพืชทางเลือกชนิดใหม่ก็ขอแนะนำว่า การปลูกขนุนพันธุ์ทองประเสริฐเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีอนาคตแจ่มใสแน่นอน

ขนุนพืชเศรษฐกิจ

สำหรับเกษตรกรชาว จ.พิจิตร ท่านใด สนใจอยากเข้าร่วมกลุ่มผู้ปลูกขนุนเพื่อการจำหน่ายภายในประเทศและเพื่อการส่งออก สามารถติดต่อขอเข้าร่วมกลุ่มและลงทะเบียนเป็นผู้ปลูกขนุนได้ที่ สนง.สภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ตั้งอยู่ที่ศาลากลางพิจิตร โทร 056-611799  หรือ  นายศุภเดช  หัวหน้า สนง.สภาเกษตรกรพิจิตร โทร 093-3157733  รวมถึงถ้าต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ นายบุญเลิศ เกษตรกรที่ประสบความสำเร็จด้านการผลิตและการตลาด ติดต่อได้ที่ 090-7471504

ขนุนพืชเศรษฐกิจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *