วันนี้จะพาไปเยี่ยมชมเกษตรกรบ้านโปร่งสนวน หมู่ 7 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พลิกพื้นที่ 7 ไร่ ซึ่งเดิมทีใช้ปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างมันสำปะหลัง กลายมาเป็นสวนทุเรียนและไม้ผลอีกหลากหลายชนิด แต่ในระหว่างที่รอไม้ผลเติบโตที่ยังไม่สามารถให้ผลผลิตได้ เกษตรกรที่นี่ จึงตัดสินใจทดลองปลูกผักแซมตามแนวร่องไม้ผล เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แทนที่จะต้องรอไม้ผลโตให้ผลผลิตไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะทุเรียนจะต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี ถึงจะให้ผลผลิตออกสู่ท้องตลาด

สวนทุเรียนของคุณอนันต์ ช่องป่า อายุ 61 ปี เกษตรกรบ้านโปร่งสนวน ในเวลาช่วงนี้ปลูกผักกะหล่ำปลี ตามร่องไม้ผล เพื่อสร้างรายได้เสริมระหว่างรอทุเรียนและไม้ผลโต ซึ่งก็ได้ผลผลิตที่ค่อนข้างดี และก่อนหน้านี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ได้เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตชุดแรกไปแล้วส่วนหนึ่ง ได้ผลผลิตประมาณ 7  ตัน 

คุณอนันต์ บอกว่า ราคาผักที่ปลูกก็ถือว่าค่อนข้างดี ขายได้กิโลกรัมละ 10 บาทเศษๆ  แต่มาในช่วงนี้ที่เริ่มเก็บชุด 2 ราคาก็ต้องกลับมาตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 4 บาท เนื่องจากปัญหาสถานการณ์โควิด- 19 ทำให้ตอนนี้การค้าขายสินค้าทางการเกษตรลดต่ำลง เพราะคนซื้อมีน้อยแต่ผลผลิตออกสู่ตลาดมีมาก จนทำให้เกิดสินค้าเกินล้นตลาด ราคาจึงปรับลดลง ซึ่งก็ถือเป็นกลไกทางการตลาดที่เกษตรกรต้องยอมรับ

สำหรับการปลูกกะหล่ำปลีนั้น เกษตรกรจะต้องทำการเพาะเมล็ดก่อนเป็นระยะเวลา 1 เดือน จากนั้นนำกล้าที่เพาะได้มาลงแปลงเพาะปลูกที่จัดเตรียมไว้ แล้วจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน หรือ 60 วัน จึงจะเริ่มให้ผลผลิต และสามารถที่จะทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *