เกษตรกรที่ปลูกพริกบ้านตาด ตำบลตาโกน อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ต่างยิ้มกันแก้มปริ หลังนี้ปลูกพริกเก็บผลผลิตส่งจำหน่าย ได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 40 บาท บางวันขยับขึ้นกิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏว่า ราคาพริกสดหน้าสวนจะราคาสูงขนาดนี้มาก่อน

เกษตรกรบ้านธิบ้านตาด ตำบลตาโกน อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นอีกแหล่งผลิตรายใหญ่ที่ปลูกพริกสดส่งจำหน่าย ต้องว่าจ้างแรงงานชาวบ้านไปช่วยเร่งเก็บพริกสดที่แก่เต็มที่ภายในสวน ให้ทันตามความต้องการของพ่อค้าที่เข้ามาติดต่อรับซื้อพริกสดถึงภายในสวน เนื่องจากในช่วงนี้พริกสดที่ออกสู่ตลาดมีราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพ่อค้าที่รับซื้อยังรับซื้อแบบไม่อั้น มีเท่าไรซื้อหมด ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท บางวันขยับขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา

นางสมจิตร เหลาคำ เกษตรกรบ้านตาด ตำบลตาโกน อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ บอกว่า หลังพลิกผืนทำหันมาปลูกพริกหารายได้เสริม โดยใช้พื้นที่ 1 ไร่เศษๆ ปลูกพริก พันธุ์ยอดสน และ อัมพวา ใช้เวลาปลูกประมาณ 3 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยเก็บเดือนละ 2 จ้างแรงงานชาวบ้านใน กิโลกรัมละ5 บาท ทำให้ชาวบ้านมีรายได้วันละ 400-500 บาท การทำสวนพริกปีนี้ อากาศเย็นจึงออกผลผลิตมาก สร้างรายได้อย่างงาม ซึ่งในชุดแรกขายผลผลิตได้ 300 กิโลกรัม มีรายได้หมื่นกว่าบาท และในรอบที่ 2 เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 1,300 กว่ากิโลกรัม รวมเป็นเงิน 6 หมื่นกว่าบาท

นางสมจิตร บอกต่อว่า ตอนนี้เกษตรกรบ้านตาดต่างรีบเร่งเก็บพริกสดขาย เพราะมีราคาดี หากช้าพริกจะล้นตลาดและราคาจะตก โดยราคาซื้อขายที่สวนราคา กิโลกรัมละ40-50 บาทจากเดิมกิโลกรัมละ 10 บาท ถือว่าราคาแพงมากในรอบ 10 ปีสาเหตุที่ปีนี้พริกมีราคาแพงเพราะว่าปีกลายนี้ราคาตกต่ำ อีกทั้งการทำสวนพริกต้องใช้สารเคมีมาก เพราะพริกมีโรคมากทั้งโรค “ราสนิม”และโรค”ใบแข็ง” ชาวสวนหลายรายหันไปปลูกพืชชนิดอื่น อีกทั้งพิษของโรคโควิด-19 ทำให้พริกลาวและกัมพูชาไม่สามารถทะลักเข้ามายังประเทศไทยมากเหมือนในอดีตทำให้พริกมีน้อย ราคาจึงสูง อีกประการหนึ่งได้มีพ่อค้ารายใหญ่ทางภาคเหนือมากว้านซื้อพริกศรีสะเกษซึ่งมีการปลูกมาในอำเภอวังหิน อำเภอกันทรารมย์ และอำเภอเมืองจันทร์ไปเก็บห้องเย็นทะยอยขายและส่งห้างจึงทำให้ราคาสูง

“พริกพันธุ์จินดา ที่มีความเผ็ดมาก ประกอบกับมีราคาสูง ตามร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยว บางร้านจะเขียนกระดาษติดไว้กับกล่องพริกว่า พริกเผ็ดมาก ให้ใส่ชิมดูก่อน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าพลั้งมือ เผ็ดเกินแล้วกินไม่ได้ ทั้งยังเป็นการเซฟจำนวนพริกด้วย.สำหรับส้มตำที่ใส่พริกสีแดงงลไปปนมะละกอให้สวยงามก็ลดจำนวนพริกลง เอามะเขือเทศสีแดงใส่แทนมากขึ้น เพื่อให้มีปริมาณมากขึ้น ขณะนี้ส้มตำราคาครกละ40-50 บาท เท่าราคาก๋วยเตี๋ยวแล้ว”


