การแก้จนในภาคเกษตรกร ประเทศไทยมุ่งที่จะเพิ่มรายได้ ลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรเป็นหลัก แต่หากมองถึงการต่อยอดผลผลิตยังมีน้อยมาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยังคิดไม่ทะลุ วันนี้เราพาไปส่องประเทศจีน ที่เกษตรกรนอกจากมุ่งมั่นทำเกษตรอัจฉริยะแล้ว เขายังนำเอาศิลปะเข้าไปผสมผสานกับการเกษตร สร้างรายได้จากวัตษดุทางการเกษตร

สำนักข่าวซินหัว รายงานเกี่ยวกับ เกษตรกรในเมืองเมืองเหลียวเฉิง ขื่อ ตุนจิ้งอี ได้รวมกลุ่มกับพวกเพื่อนๆ ทำงานศิลปะที่รังสรรค์มาจาก “ฝางข้าว” ในหมู่บ้านที่ชื่อ เหอเจียซุ่น ตำบลเกาถง เมืองเหลียวเฉิง มณฑลซานตง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

งานศิลปะที่ว่านั้นเป็นภาพ ในใช้ฟางข้าวเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งเป็นศิลปะพื้นบ้านของจีน ที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย ทั้งนี้การรังสรรค์ชิ้นงาน ต้องนำฟางข้าวมาฟอก นึ่ง รีด บีบอัด และตัด เพื่อให้มีรูปร่างและเฉดสีที่แตกต่างกัน

ซินหัว รายงานว่า ศิลปะจากฝางข้าวเป็นมรดกที่จับต้องไม่ได้ของจีน ในปี 2014 โดยการแปรรูปฟางข้าว อาจต้องใช้เวลาเกือบ 2 อาทิตย์ ไม่รวมขั้นตอนการลงสีงาน เช่น หากเป็นขนาด 50×40 ซม. อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น และหากเป็นชิ้นงานที่มีความสลับซับซ้อน ต้องใช้เวลาทำนานกว่านั้น

การแปรรูปฟางข้าวอาจใช้เวลาเกือบสองสัปดาห์ ส่วนขั้นตอนการลงสีงานขนาด 50*40 เซนติเมตรอาจใช้เวลานานกว่านั้น ขณะงานบางชิ้นที่มีความสลับซับซ้อนต้องใช้เวลาทำนานหลายเดือน

ที่สำคัญ ซินหัว รายงานว่า นายตุน มีเพื่อนๆเกษตรกรที่ร่วมรังสรรค์งานศิลปะนี้ กว่า 30 คน และหลายคนหลุดพ้นจากความยากจน โดยนายตุน บอกว่า ที่สตูดิโอขายงานศิลปะของพวกเขา สามารถทำรายได้กว่า 200,000 หยวน หรือประมาณกว่า 9 แสนบาท ในปี 2020 และคาดว่ายอกสั่งซื้อในปีนี้จะเพิ่มมากกว่า 2 เท่าตัว

อันที่จริง ในประเทศไทยก็มีงานศิลปะ ที่ผลิตจากวัสดุทางการเกษตรตามภูมิปัญญาท้องถิ่นมากมาย แต่อาจไม่มีการรวบรวมหรือส่งเสริมให้เป็นงานศิลปะที่ยอมรับในวงกว้าง บทความชิ้นนี้ มุ่งหวังว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวกับการเกษตร และ งานด้านศิลปวัฒนธรรม อาจจับมือกันรวบรวมศิลปะจากวัสดุเกษตรในท้องถิ่น มาพัฒนา เพื่อสร้างเศรษฐกิจจากฐานรากได้อีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ศิลปะการเกษตรของไทยมีมากมาย เช่นย้อมผ้าจากเปลือกไม้ เสื่อกระจูด กระเป๋าย่านลิเภา ร่มกระดาษเชียงใหม่ เป็นต้น และยังสามารถยกระดับความน่าสนใจได้มากกว่านี้ ขณะเดียวกันก็มีเกษตรศิลปะอีกไม่น้อย ที่ยังไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพัฒนาอย่างจริงจัง

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวซินหัว