ไผ่ พืชที่ได้การยอมรับว่าสามารถนำมาใช้ได้สารพัดประโยชน์ ซึ่งต้นไผ่มีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็เหมาะกับวัตถุประสงค์แตกต่างกันไป แต่หากพูดถึงการนำมารับประทานต้องยกให้ไผ่บงหวาน และไผ่บงหวานที่ขึ้นชื่อที่สุดต้องเป็นสายพันธุ์จากจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจังหวัดนี้ได้การันตี โดยนำไผ่บงหวานใส่ไว้ในคำขวัญของดีจังหวัด ที่ว่า  “ศรีมหาโพธิ์คู่บ้าน  ไผ่บงหวานคู่เมือง  ผลไม้ลือเลื่อง  เขตเมืองทวารวดี”

คุณละเอียด  ขนธาตุ” หรือ  พี่ตุ่ม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองบัว หมู่ที่ 9 ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เจ้าของสวนไผ่บงหวานหนองบัว บอกว่า  “ไผ่บงหวานหนองบัว”  เป็นไผ่พันธุ์เบาขนาดเล็ก  ลำต้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1.5 นิ้ว   ลำต้นเล็กสูงราว 4 เมตร   ลำต้นเขียวสด  ไม่มีขน   ใบเรียวเล็กแตกกอ  ออกหน่อให้ผลผลิตตลอดทั้งปี จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรได้ดีมาก

ปัจจุบันคุณละเอียด ปลูกไผ่บงหวานกว่า 5 ไร่เศษ  มากกว่า 200 ต้น   ที่กำลังแทงหน่อให้ผลผลิต พร้อม ๆ กัน ส่วนพื้นร่องสวนยังปลูกพืชอื่นหมุนเวียน ตามแนวทางเกษตรผสมผสาน  อาทิ  ตะไคร้  พริก  ไม้ผล  มะพร้าว  และ ขาดไม่ได้คือต้องมีแหล่งน้ำ ซึ่งทุกวันนี้หน่อไม้ที่ตัดได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า  และยังเพาะพันธุ์ไผ่บงหวานขายได้อีกต้นละ 150 บาท

“ทุกวันนี้ชื่นใจ ที่สามารถทำสวนไผ่บงหวานประสบความสำเร็จ จากที่นำพันธุ์มาจากภาคเหนือมาปลูกที่หนองบัว  จึงเรียกไผ่บงหวานหนองบัว ก่อนหน้านี้ทำงานเย็บผ้าโหลขาย แต่เศรษฐกิจตกต่ำ เลยตัดสินใจหันมาทำเกษตรผสมผสาน   พร้อม ๆ ปลูกไผ่บง  ในแปลงเดียวกัน  จนเริ่มเก็บเกี่ยวออกขายได้ กิโลกรัมละ 80 บาท แพงกว่าหน่อไม้ทั่วไปที่ขายกันกิโลกรัมละ 40-50 บาท”

สำหรับการปลูกไผ่บง แต่ละต้นจะปลูกห่างกันประมาณ 4-5 เมตร ใช้เวลา 2 ปีก็จะแทงหน่อ  แต่ข้อควรระวังเรื่องน้ำ  ต้องหมั่นดูแลอย่าให้ขาด ปุ๋ยควรเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยขี้ไก่   ผสมแกลบข้าวโรยรอบๆโคนต้น เมื่อแทงหน่อแล้วควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง  1 กอไม่ควรปล่อยให้ลำต้นมากกว่า 4-6 ต้น เพราะจะทำให้ไปแย่งอาหารจะทำให้หน่อน้อย และไม่อวบ

สารพัดเมนูจากหน่อไม้หวาน

ทั้งนี้หน่อไม้บงหวาน จะมีรสชาติดีกว่ามากไผ่พันธุ์อื่น สามารถรับประทานดิบๆได้ โดยไม่ต้องต้ม รสขาติหวานกรอบ นุ่ม ไม่ขื่น เพราะไม่มีสารไซยาไนท์เหมือนกับไผ่ชนิดอื่น ๆ เอาไปจิ้มน้ำพริก อร่อยมาก แม้แต่จะนำไปทำของขบเคี้ยว หรือ แฟรนด์ฟาย ก็อร่อยกว่ามันฝรั่ง หรือหากนำไปทำเป็นกับข้าวเมนูต่างๆก็ได้รสชาติ โดยเฉพาะเอาไปแกงแทนยอดมะพร้าว หรือทำตำส้มตำก็ได้อร่อย เพราะนุ่มกรอบไม่เหนียวเหมือนมะละกอ    

ด้วยเหตุนี้หน่อไม้บงหวานบ้านหนองบัว จึงมีลูกค้ามาจองซื้อจนหน่อแตกไม่ทัน โดยมีทั้งเอาไปรับประทานเอง ส่งขาย รวมทั้งนำไปแปรรูปเป็นอาหารสำเร็จไปขายในตลาด

คุณรุ่งนภา เนินคำภา ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกับคุณละเอียด บอกว่า ลงทุนทำสวนไผ่บงหวานหนองบัวบนเนื้อที่กว่า 1 ไร่   พร้อมกับเปิดร้านอาหารชื่อครัวตุ้มโฮม   ติดถนนสายสุวรรณศร (กบินทร์บุรี –ประจันตคาม) หรือ สาย 33 โดยในร้านจะโชว์การปรุงส้มตำจาก ไผ่บงหนอบัวให้ทานกันสดๆ ทั้ง 2 แบบตำปลาร้ารสเด็ด หรือตำนัว และตำปู- ไทย รสชาติสุดแซ่บนัว โดยใช้ไผ่บงหวานจากสวนมาเป็นวัตถุดิบสำคัญ

ทางร้านจะใช้เครื่องปรุงที่ปลูกเองในสวน ซึ่งมีความสดใหม่ ลูกค้าทุกคนที่ได้มาลองลิ้มชิมรส ต่างติดอกติดใจไปตามๆกัน

คุณรุ่งนภา เธอบอกสูตร เมนูจากไผ่บงหวานจานเด็ด เมนูแรก  ไผ่บงหวานผัดกุ้งสด   ที่รสอร่อยหอมหวานกว่า  ยอดมะพร้าวอ่อน    วิธีทำ  

  1. นำกุ้งกุลาดำแกะเปลือกเหลือหางไว้ ผ่าหลังเอาเส้นดำออกล้างน้ำให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่กระเทียมสับลงผัดให้หอม ใส่ไผ่บงหวานสับลงผัด สักครู่ใส่กุ้งกุลาดำที่เตรียมไว้  ตามด้วยเห็ดหอมสด พริกชี้ฟ้า และต้นหอม ผัดให้เข้ากัน 
  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ตามด้วยน้ำซุปผัดให้เข้ากัน แค่นี้เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

เมนูที่สอง  ส้มตำจากไผ่บง แทนมะละกอสุดแซ่บ    

  1. เตรียมส่วนผสม นำไผ่บงมาปลอกเปลือกออก สับแทนมะละกอ1 ถ้วย , มะเขือเทศสีดา 2 ลุก , แครอทสับ 1/2 ถ้วย , ถั่วฝักยาว 1 ฝัก , พริกขี้หนูสด หรือแห้งตามชอบ 3-5 เม็ด , กระเทียม 1-2 กลีบเล็ก , น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ , น้ำมะนาว และมะนาวผ่าชิ้น , น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ  ,  ปูเค็ม 1 ตัว , กุ้งแห้ง และ ถั่วลิสง
  2. ตำพริกขี้หนูและกระเทียม โดยก่อนตำหักถั่วฝักยาวสักสี่ห้าชิ้น หรือหยิบเส้นไผ่บงที่ใช้แทนมะละกอใส่ลงไปด้วยสักแค่หยิบมือ  จากนั้นใส่พริกขี้หนูหรือพริกแห้งแล้วแต่ความชอบ ตำจนพริกกับกระเทียมแหลกดี
  3. ใส่น้ำปลา น้ำมะขาวเปียก น้ำมะนาว น้ำตาลปีบ หั่นมะเขือเทศ และมะเขือเปราะใส่ไปสักชิ้น-สองชิ้น หั่นมะนาวเป็นชิ้นลงไปด้วย (แต่อย่าลืมลดน้ำมะนาวลง  ถ้าใส่ชิ้นมะนาวลงไปด้วย)  
  4. ใส่ปูเค็ม แล้วโขลกเบาๆ เคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ชิมรสชาติ ถ้าไม่พอใจก็ปรุงรสเพิ่มเติม  ปรุงรสได้ที่ ใส่ไผ่บงสับ แครอทสับ ลงไปโขลกเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ตักใส่จานเสิร์ฟได้ทันที

ผู้ใหญ่บ้านใจดี คุณรุ่งนภา  เนินคำภา ยังฝากบอกใครที่เดินทางผ่าน กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี อยากปลูกไผ่บงหวานเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ไม่มีจน เพราะให้ผลผลิตทั้งปี หรือหากอยากชิม เมนู ไผ่บงหนองบัว โทร. 063 – 193-0417 ล่วงหน้าจะทำให้ทาน…หรือแวะชิมที่ ร้านครัวตุ้มโฮม ติดถนนสายสุวรรณศร (กบินทร์บุรี –ประจันตคาม) หรือสาย 33 ตรงข้ามบ้านดงบัง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้ทุกวัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *